ไฟฟ้าเป็นสิ่งจําเป็นอย่างยิ่งในชีวิตประจําวัน ซึ่งการมีเครื่องกําเนิดไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพ จะช่วยให้การใช้ชีวิตและการทํางานต่างๆ ดําเนินไปได้อย่างราบรื่น แต่ก่อนเลือกซื้อเครื่องกําเนิดไฟฟ้า สิ่งสําคัญคือต้องทําความเข้าใจก่อนว่า เครื่องกําเนิดไฟฟ้าคืออะไร? มีกี่ประเภท ลักษณะเฉพาะของแต่ละประเภทเป็นอย่างไร และเหมาะสมต่อการใช้งานแบบใดบ้าง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถเลือกซื้อเครื่องกําเนิดไฟฟ้าที่เหมาะสมกับความต้องการใช้งานได้อย่างถูกต้อง
โดยในบทความนี้เราจะมาไขข้อสงสัยให้ทุกคนได้ทราบกันเกี่ยวกับความหมายและประเภทต่างๆ ของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าว่ามีอะไรบ้าง และมีการใช้งานที่เหมาะสมอย่างไร ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย
ทำความรู้จัก เครื่องกำเนิดไฟฟ้า คืออะไร
เครื่องกําเนิดไฟฟ้า หรือที่เรียกอีกอย่างว่า “เครื่องปั่นไฟ” คืออุปกรณ์ที่ใช้แปลงพลังงานกล เคมี หรือแสงอาทิตย์ ให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้า โดยนำหลักการของ ไมเคิล ฟาราเดย์ มาใช้งาน ที่ซึ่งอาศัยหลักการเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้า เมื่อมีการหมุนขดลวดไฟฟ้าในสนามแม่เหล็ก จะเกิดแรงเคลื่อนไฟฟ้าขึ้นในขดลวด ทําให้เกิดกระแสไฟฟ้า โดยมีจุดประสงค์การใช้งานคือการผลิตไฟฟ้าไว้ใช้สำรองเพื่อป้องกันปัญหาไฟฟ้าขัดข้อง ซึ่งเครื่องกําเนิดไฟฟ้านั้นมีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับแหล่งพลังงานที่ใช้ เช่น เครื่องกำเนิดไฟฟ้าเครื่องยนต์ดีเซล, เบนซิน, พลังงานธรรมชาติ, พลังงานสำรอง เป็นต้น
เครื่องกำเนิดไฟฟ้า มีประโยชน์อย่างไร
เครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Generators) เป็นส่วนสำคัญในระบบจัดจ่ายพลังงาน ซึ่งเป็นแหล่งที่สร้างพลังงานไฟฟ้าสำหรับการใช้งานในบ้านเรือน, อุตสาหกรรม และสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากในการช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหาต่างๆ เช่น
- ทำให้เกิดพลังงานไฟฟ้า: เครื่องกำเนิดไฟฟ้ามีส่วนสำคัญในการผลิตพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันและอุตสาหกรรมที่หลากหลาย
- ช่วยลดการใช้พลังงานทดแทน: ทำให้เราสามารถใช้พลังงานที่ได้จากแหล่งที่ปลอดภัยและทดแทนได้, ตามลักษณะของแหล่งพลังงานที่ใช้ในการผลิต (เช่น พลังงานแสงอาทิตย์, พลังงานลม, หรือพลังงานน้ำ)
- เป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าสำรอง: เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองสามารถให้พลังงานในกรณีที่เกิดไฟฟ้าขัดข้องจากระบบหลัก
- ป้องกันความเสียหาย: ช่วยป้องกันความเสียหายของอุปกรณ์ที่เกิดจากสาเหตุไฟฟ้าดับภายในอาคารและที่อยู่อาศัย รวมถึงโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ
ชนิดของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า มีอะไรบ้าง
เครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ใช้งานโดยทั่วไปสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด หลักๆ ดังนี้
เครื่องกำเนิดไฟฟ้า ชนิดกระแสตรง (Dynamo Generator)
เครื่องกำเนิดไฟฟ้าชนิดกระแสตรงหรือ Dynamo Generator คืออุปกรณ์ที่ใช้ในการแปลงพลังงานกลจากการหมุนของพลาสติกให้เป็นพลังงานไฟฟ้าในรูปแบบของกระแสตรง (direct current หรือ DC) โดยใช้หลักการของการสร้างกระแสไฟฟ้าด้วยการวิ่งสายไฟในสนามแม่เหล็ก หรือแม่เหล็กมีการหมุนเพื่อตัดข้ามเส้นของสนามแม่เหล็ก ซึ่งเป็นกระบวนการที่สร้างประจุไฟฟ้าได้
เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสตรงมีกี่ชนิด? เครื่องกำเนิดไฟฟ้าชนิดนี้มักถูกใช้ในอดีตในการสร้างไฟฟ้าสำหรับใช้ในแต่ละงาน เช่น ในรถไฟ, โรงงาน, และอุตสาหกรรมต่างๆ แต่ปัจจุบันมักถูกแทนที่ด้วยเครื่องกำเนิดไฟฟ้าชนิดอื่นๆ ที่มีประสิทธิภาพและมีขนาดเล็กกว่า เช่น ไดนาโมแม็กเนติกกี้ (alternator) ที่สร้างกระแสไฟฟ้าที่มีรูปแบบสลับ (alternating current หรือ AC) มีการใช้งานแพร่หลายมากในระบบไฟฟ้าปัจจุบัน ซึ่งสามารถแบ่งได้ 2 ชนิด ได้แก่
- เครื่องกำเนิดชนิดกระตุ้นแบบแยก Separaly excited generator
- เครื่องกำเนิดชนิด Self excited generator
- เครื่องกำเนิดแบบอนุกรม (Series generator)
- เครื่องกำเนิดแบบผสม (Compound generator)
- เครื่องกำเนิดแบบขนาน (Shunt generator)
เครื่องกำเนิดไฟฟ้า ชนิดกระแสสลับ (Alternator Generator)
เครื่องกำเนิดไฟฟ้าชนิดกระแสสลับ (Alternating Current Appliances) คือ เครื่องที่ออกแบบมาให้ทํางานกับกระแสไฟฟ้าสลับทิศทาง หรือเรียกว่า กระแสสลับ (Alternating Current Appliances) ซึ่งมีหลักการการทำงานเหมือนกับเครื่องไดนาโม แต่มีความแตกต่างกันที่การตัดผ่านสนามแม่เหล็ก โดยการอาศัยตัวนำอาร์เมเจอร์หมุนตัดสนามขั้วแม่เหล็ก และสนามแม่เหล็กที่ขั้วแม่เหล็กหมุนตัดตัวนำในอาร์เมเจอร์อีกที โดยมักนำมาใช้ประโยชน์ให้กับอุปกรณ์ต่างๆ เช่น หลอดไฟ พัดลม ตู้เย็น เครื่องซักผ้า เป็นต้น
นอกจากนี้ เครื่องกำเนิดไฟฟ้าชนิดกระแสสลับ ยังสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ระบบ คือ
- ระบบไฟฟ้า 1 เฟส (Single Phase) ใช้กับบ้านเรือนทั่วไป ให้แรงดัน 220-230 V ความถี่ 50 Hz มีสายไฟ 2 เส้น คือ สายเฟสที่มีกระแสไฟฟ้าและสายนิวทรัล
- ระบบไฟฟ้า 3 เฟส (Three Phase) ใช้กับโรงงานอุตสาหกรรม หรืออาคารขนาดใหญ่ ให้แรงดัน 380 V ความถี่ 50 Hz มีสายไฟ 4 เส้น ประกอบด้วย สายเฟสที่มีกระแสไฟฟ้า 3 เส้น และสายนิวทรัล 1 เส้น
เครื่องกำเนิดไฟฟ้า 3 เฟส จะให้พลังงานไฟฟ้าได้มากกว่าระบบ 1 เฟส ประมาณ 3 เท่า ซึ่งเหมาะสําหรับเครื่องจักรขนาดใหญ่ในโรงงาน แต่หากจะใช้งานกับอุปกรณ์ทั่วไปหรืออุปกรณ์ภายในบ้าน จะต้องทำการแปลงเป็นระบบ 1 เฟส ก่อนนําไปใช้งาน
ไขข้อสงสัย เครื่องกำเนิดไฟฟ้ามีกี่ประเภท
เครื่องกำเนิดไฟฟ้ามีให้เลือกใช้มากมายหลายแบบ ซึ่งในแต่ละประเภทก็มีประโยชน์ต่อการใช้งานที่แตกต่างกันไปตามความเหมาะสม โดยสามารถแบ่งออกเป็น 8 ประเภทหลักๆ ได้ ดังนี้
เครื่องกำเนิดไฟฟ้าเครื่องยนต์ดีเซล
เครื่องกําเนิดไฟฟ้าเครื่องยนต์ดีเซล คือ เครื่องกําเนิดไฟฟ้าที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลเป็นแหล่งพลังงานหลักในการขับเคลื่อนเครื่องกําเนิดไฟฟ้า โดยเครื่องยนต์ดีเซลจะทําหน้าที่เผาไหม้เชื้อเพลิงดีเซล เพื่อผลิตพลังงานกลไปหมุนเพลาเครื่องกําเนิดไฟฟ้า ทําให้เกิดแรงเคลื่อนไฟฟ้าขึ้นบนโรเตอร์ ก่อนส่งผ่านไปยังระบบจ่ายไฟฟ้าต่อไป
โดยการทำงานของเครื่องยนต์ดีเซลนั้น จะทําการเผาไหม้น้ำมันดีเซลภายในกระบอกสูบ เพื่อผลิตพลังงานความร้อนและก๊าซความดันสูง พลังงานจากก๊าซความดันสูงนี้ จะถูกนําไปขับเคลื่อนกังหันที่เชื่อมต่อกับเพลาเครื่องกําเนิดไฟฟ้า ทําให้เกิดการหมุนของโรเตอร์ภายในเครื่องกําเนิดไฟฟ้า ซึ่งจะทําให้เกิดกระแสไฟฟ้าขึ้นมาได้
เครื่องกําเนิดไฟฟ้าเครื่องยนต์ดีเซล มีความเหมาะสมสําหรับการใช้งานในอาคาร สถานที่ หรือโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ต้องการกําลังไฟฟ้าสูง เนื่องจากเครื่องยนต์ดีเซลมีกําลังสูง ทนทาน และสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน จึงเหมาะสําหรับใช้เป็นแหล่งจ่ายไฟฟ้าสํารองหลักของอาคารขนาดใหญ่ หรือใช้ในกระบวนการผลิตที่ต้องการพลังงานไฟฟ้าสูงอย่างสม่ำเสมอ
เครื่องกำเนิดไฟฟ้าเครื่องยนต์เบนซิน
เครื่องกําเนิดไฟฟ้าเครื่องยนต์เบนซิน หรือ เครื่องปั่นไฟเบนซิน มีความคล้ายคลึงกันกับเครื่องยนต์ดีเซล คือ เป็นแหล่งพลังงานหลักในการขับเคลื่อนเพลาเครื่องกําเนิดไฟฟ้า โดยเครื่องยนต์เบนซินจะทําหน้าที่เผาไหม้น้ำมันเบนซินเพื่อผลิตพลังงานกลไปหมุนเพลาเครื่องกําเนิดไฟฟ้า ทําให้เกิดแรงเคลื่อนไฟฟ้าขึ้นบนโรเตอร์ ก่อนส่งผ่านไปยังระบบจ่ายไฟฟ้าต่อไป
เครื่องปั่นไฟเบนซินเหมาะสําหรับการใช้งานขนาดเล็กถึงขนาดกลาง เช่น บ้านพักอาศัย ร้านค้า สํานักงาน เนื่องจากมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ง่ายต่อการเคลื่อนย้าย และมีราคาถูก แต่อาจไม่เหมาะสําหรับงานขนาดใหญ่ที่ต้องการกําลังไฟฟ้าสูง เนื่องจากเครื่องยนต์เบนซินมีกําลังจํากัด
เครื่องกำเนิดไฟฟ้าเครื่องยนต์แก๊สโซลีน
การใช้งานเครื่องกําเนิดไฟฟ้าเครื่องยนต์แก๊สโซลีนนั้น เหมาะสําหรับการใช้เพื่อการผลิตกระแสไฟฟ้าสํารองในสถานที่ที่มีความจําเป็นต้องใช้ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง เช่น โรงพยาบาล สถานีตํารวจ หรืออาคารสํานักงาน เนื่องจากสามารถเดินเครื่องทิ้งไว้ได้เป็นเวลานานโดยไม่มีข้อจํากัดเรื่องแหล่งพลังงานเหมือนพลังงานหมุนเวียนอื่นๆ นอกจากนี้ยังสามารถนําไปใช้ในงานก่อสร้างหรือเหตุการณ์ฉุกเฉินต่างๆ ได้อีกด้วย
เครื่องกำเนิดไฟฟ้าอินเวอร์เตอร์
เครื่องกําเนิดไฟฟ้าอินเวอร์เตอร์ คือ เครื่องกําเนิดไฟฟ้าที่สามารถแปลงกระแสไฟฟ้า (กระแสตรง) ให้เป็นกระแสสลับ เพื่อนําไปใช้งานกับอุปกรณ์ไฟฟ้าทั่วไปที่สามารถรองรับกระแสสลับได้ ซึ่งหลักการทํางานจะมีส่วนของอินเวอร์เตอร์ซึ่งทําหน้าที่แปลงกระแสไฟฟ้า (กระแสตรง) ที่ได้จากแหล่งกําเนิดไฟฟ้า เช่น แผงโซลาร์เซลล์ หรือเครื่องยนต์ ให้กลายเป็นกระแสสลับที่สามารถจ่ายให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ได้
เครื่องกำเนิดไฟฟ้าพลังงานธรรมชาติ
เครื่องกําเนิดไฟฟ้าพลังงานธรรมชาติ คือ เครื่องกําเนิดไฟฟ้าที่ใช้พลังงานธรรมชาติ (เช่น ลม น้ำ แสงอาทิตย์) ในการผลิตกระแสไฟฟ้าโดยไม่ต้องใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งมีหลักการทํางาน ดังต่อไปนี้
- แบบพลังงานลม ใช้กังหันลมหมุนเพื่อขับเคลื่อนเพลาผลิตไฟฟ้า
- แบบโซลาร์เซลล์ แปลงแสงอาทิตย์เป็นกระแสไฟฟ้าโดยตรง
- แบบพลังงานน้ำ ใช้น้ำตกหรือน้ำไหลหมุนกังหันผลิตไฟฟ้า
เครื่องกําเนิดไฟฟ้าพลังงานธรรมชาติเหมาะสําหรับการใช้งานที่ต้องการพลังงานไฟฟ้าไม่มาก เช่น บ้านพักอาศัย หมู่บ้านชนบท และรีสอร์ต เป็นต้น เนื่องจากมีขนาดเล็ก จึงง่ายต่อการติดตั้งและเคลื่อนย้าย
เครื่องกำเนิดไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์
เครื่องกําเนิดไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการแปลงพลังงานแสงอาทิตย์ให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้า โดยมีส่วนประกอบหลัก คือ แผงโซลาร์เซลล์ ทําหน้าที่ดูดกลืนแสงอาทิตย์แล้วเปลี่ยนเป็นกระแสไฟฟ้าโดยตรง ซึ่งมีหลักการทํางาน โดยใช้แผงโซลาร์เซลล์ที่ประกอบด้วยซิลิกอน ดูดกลืนโฟตอนแสงอาทิตย์แล้วทำให้เกิดไฟฟ้ากระแสตรงจากนั้นจึงแปลงกระแสตรงเป็นกระแสสลับให้ใช้งานได้ โดยมีแบตเตอรี่สํารองไฟฟ้าไว้ใช้ยามกลางคืนหรือในตอนที่แสงแดดน้อย
เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรอง
เครื่องกําเนิดไฟฟ้าสํารอง ทําหน้าที่ผลิตกระแสไฟฟ้าสํารองเอาไว้ใช้ ในกรณีที่ไฟฟ้าดับหรือไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้งาน ลักษณะของเครื่องกําเนิดไฟฟ้าสํารองจะประกอบไปด้วย เครื่องยนต์สันดาปภายในที่ทําหน้าที่เป็นแหล่งพลังงานหมุนเพลาให้กับเครื่องกําเนิดไฟฟ้า โดยมีระบบเริ่มเดินเครื่องแบบอัตโนมัติที่จะตรวจจับเมื่อไฟฟ้าปกติดับแล้วสั่งให้เครื่องยนต์เริ่มทํางานผลิตไฟฟ้า อีกทั้งยังมีระบบ ATS ที่ทําหน้าที่สลับวงจรไฟฟ้าให้จ่ายไฟฟ้าจากเครื่องกําเนิดไฟฟ้าสํารองแทนที่จะจ่ายจากการไฟฟ้าปกติได้อีกด้วย ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้ไฟฟ้าไหลกลับเข้าสู่ระบบของการไฟฟ้า
เครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาดเล็ก
เครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาดเล็ก หรือขนาดพกพาได้ (Portable Generator) ซึ่งมีทั้งแบบอุตสาหกรรม และ แบบทั่วไป โดยมีขนาดตั้งแต่ 500w – 15 kW ใช้เชื้อเพลิงได้ทั้งเบนซินและดีเซล ซึ่งเชื้อเพลิงน้ำมันเบนซินจะมีราคาที่ถูกกว่า และมีขนาดเล็กกว่ามาก ส่วนในแบบที่ใช้เชื้อเพลิงน้ำมันดีเซลนั้นจะมีราคาที่สูงกว่า แต่มีความทนทาน และประหยัดน้ำมันได้มากกว่าด้วยเช่นกัน ซึ่งเหมาะสำหรับงานก่อสร้าง งานบํารุงรักษา หรืองานภาคสนามที่ต้องการไฟฟ้าเคลื่อนที่
ชุดโครงของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า มีกี่ประเภท อะไรบ้าง
ชุดโครงของเครื่องกำเนิดไฟฟ้ามีหลายประเภทให้เลือกใช้ ตามความเหมาะสมของการใช้งาน ซึ่งสามารถแบ่งออกได้ 6 ประเภท ดังนี้
ชุดโครงเครื่องกำเนิดไฟฟ้า แบบเปลือย (Open type Generator set)
เครื่องกําเนิดไฟฟ้าแบบเปลือย คือ เครื่องกําเนิดไฟฟ้าที่ติดตั้งบนโครงโลหะหรือโครงสร้างโดยตรงที่สามารถรองรับเครื่องจักรและอุปกรณ์เสริมได้ ซึ่งระบบนี้จะช่วยให้การผลิตและการติดตั้งมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น
ชุดโครงเครื่องกำเนิดไฟฟ้า แบบกันฝน (Rain type Generator set)
ชุดโครงเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบกันฝน คือ ชุดโครงที่ได้รับการออกแบบและสร้างให้ทนทานต่อสภาพอากาศฝนฟ้าได้เป็นอย่างดี ชุดโครงเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบกันฝนเหมาะสําหรับการใช้งานกลางแจ้งในสภาพอากาศที่มีฝนตกชุก แม้จะมีราคาแพงกว่าแต่ค่อนข้างที่จะคุ้มค่าในการใช้งานระยะยาว
ชุดโครงเครื่องกำเนิดไฟฟ้า แบบลดเสียง (Silent type Generator set)
ชุดโครงเครื่องกำเนิดไฟฟ้า แบบลดเสียง (Silent type Generator set) เป็นชุดโครงครอบแบบเก็บเสียงสำหรับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ซึ่งจะช่วยในการลดเสียงการทำงานของตัวเครื่อง
โดยชุดโครงเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบลดเสียงนี้ มีให้เลือกใช้ 2 ประเภท ดังนี้
- Standard Silent Type : ชุดโครงครอบแบบเก็บเสียง สามารถใช้ร่วมกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาดตั้งแต่ 10-650 kVA. ซึ่งจะช่วยลดเสียงขณะเครื่องยนต์ทำงานได้เป็นอย่างดี เหมาะกับการใช้งานที่ต้องการความเงียบ โดยสามารถติดตั้งได้ทั้งภายในอาคารและนอกอาคาร
- Container Silent Type : ชุดโครงครอบเก็บเสียงแบบตู้ Container สามารถใช้ร่วมกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาดตั้งแต่ 650-1000 kVA. ภายใช้ตู้ container ด้วยวัสดุ Rockwool ที่ใช้สำหรับลดเสียงและป้องกันความร้อน โดยสามารถติดตั้งได้ทั้งภายในอาคารและนอกอาคารเช่นกัน
ชุดโครงเครื่องกำเนิดไฟฟ้า แบบลากจูง (Trailer type generator set)
ชุดโครงเครื่องกำเนิดไฟฟ้า แบบลากจูง (Trailer type generator set ) เป็นอุปกรณ์ผลิตไฟฟ้าเคลื่อนที่ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานชั่วคราว ซึ่งมีความสะดวกและรวดเร็วในการใช้งาน เหมาะสำหรับการเคลื่อนย้ายไปในพื้นที่ต่างๆ เช่น
คอนเสิร์ตกลางแจ้ง การช่วยเหลือฉุกเฉิน งานก่อสร้าง เป็นต้น สามารถเก็บเสียง, ทนแดด และทนฝน ได้ดี โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ ชุดโครงครอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบลากจูง 2 ล้อ และชุดโครงครอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบลากจูง 4 ล้อ
ชุดโครงเครื่องกำเนิดไฟฟ้า แบบรถบรรทุก (Truck type generator)
ชุดโครงเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบรถบรรทุก (Truck type generator) เป็นระบบผลิตไฟฟ้าเคลื่อนที่ส่วนบุคคล ซึ่งติดตั้งเครื่องจักรกลผลิตไฟฟ้า, หม้อแปลงไฟฟ้า และอุปกรณ์ประกอบอื่นๆ บนรถบรรทุกหรือรถพ่วง ซึ่งระบบเหล่านี้มีประสิทธิภาพในฐานะแหล่งจ่ายไฟฉุกเฉิน โดยมีความสำคัญอย่างยิ่งเมื่อเกิดภัยพิบัติหรือไฟฟ้าขัดข้อง รวมถึงการใช้งานเพื่อเป็นแหล่งจ่ายไฟฟ้าชั่วคราวสําหรับงานต่างๆ เช่น การติดตั้งหรือตรวจสอบสายไฟ หรือการทําเหมืองถ่านหิน เป็นต้น
ชุดโครงเครื่องกำเนิดไฟฟ้า แบบตู้คอนเทนเนอร์ควบคุมอุณหภูมิ (Reefer Container type generator set)
ชุดโครงเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบตู้คอนเทนเนอร์ควบคุมอุณหภูมิ เป็นชุดโครงที่ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า โดยมีระบบควบคุมอุณหภูมิ สามารถตั้งค่าได้ 4 ระบบ คือ อุณหภูมิ, การระบายอากาศ, ความชื้น และท่อน้ำทิ้ง ซึ่งสามารถรักษาอุณหภูมิระหว่าง +25 องศาเซลเซียส ถึง -25 องศาเซลเซียส
สําหรับสินค้าแช่เย็นและแช่แข็ง มีฟังก์ชันลดความชื้นที่จะช่วยลดระดับความชื้นในอากาศและ ระบบท่อน้ำทิ้งที่ใช้เพื่อระบายน้ำเกินที่อาจสะสมอยู่ภายในตู้ นอกจากนี้ ยังช่วยป้องกันไม่ให้น้ำหรือแมลงเข้าไปภายในตู้ได้อีกด้วย ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานเพื่อการขนส่งสินค้า เช่น ผลไม้และผัก, เนื้อสัตว์, ปลา (สดหรือแช่แข็ง), นมและผลิตภัณฑ์นม, ดอกไม้, เภสัชภัณฑ์, น้ำผลไม้และเข้มข้น และช็อกโกแลต เป็นต้น
ดูแลรักษาเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ทำได้ยังไง
ได้ทราบกันไปแล้วว่าเครื่องกําเนิดไฟฟ้ามีกี่ประเภท ต่อมาควรศึกษาการดูแลรักษาเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เพราะเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้การใช้งานยังคงความมีประสิทธิภาพอยู่เสมอ โดยมีขั้นตอนต่างๆ ดังนี้
- ก่อนตรวจสอบและดูแลรักษาเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ควรปิดสวิตช์ไฟและปิดระบบการจ่ายไฟทุกครั้ง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากเครื่องยนต์
- ตรวจสอบและดูแลความเรียบร้อยของตัวเครื่อง ทุกๆ 20 ชั่วโมง
- ตรวจสอบระดับน้ำมันของเครื่องยนต์ จะต้องไม่มีตะกอนหรือคราบดำ รวมถึงต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องยนต์ทุกครั้งก่อนการใช้งาน
- ใช้ผ้าแห้งเช็ดบริเวณหม้อน้ำกลั่น และตรวจสอบสภาพน้ำกลั่นในเครื่องปั่นไฟ จะต้องมีสีที่ใสและไม่มีตะกอน
- หมุนขั้วสายไฟให้แน่นและใช้ผ้าแห้งเช็ดทำความสะอาดอยู่เสมอ หลังการใช้งานทุกครั้ง
- ควรใส่น้ำมันหล่อลื่นที่สายพานทุกครั้งหลังการใช้งานเครื่องปั่นไฟ และเปลี่ยนสายยางทันทีหากชำรุดหรือเสียหาย
- ใช้ผ้าชุบน้ำให้พอหมาด เช็ดทำความสะอาดแผงรังผึ้งด้านนอกของหม้อน้ำ
- ถ่ายน้ำมันหล่อลื่นทุกๆ 3 เดือน และเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันหล่อลื่นตามการใช้งาน
- เปลี่ยนไส้กรองเชื้อเพลิงของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า และเปลี่ยนไส้กรองอากาศทุกๆ 6 เดือน
ข้อควรระวัง ในการใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้า
การใช้งานเครื่องกำเนิดไฟฟ้าชนิดต่างๆ จะต้องทำความเข้าใจในข้อควรระวังเพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้งานได้ โดยมีคำแนะนำ ดังต่อไปนี้
- ปิดสวิตช์หรือดึงสายขั้วแบตเตอรี่ออกก่อนการตรวจเช็กทุกครั้ง เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากเครื่องยนต์สตาร์ต
- ห้ามเปิดฝาหม้อน้ำในขณะที่เครื่องยนต์ทำงานหรือมีความร้อนอยู่
- ไม่จ่ายกระแสไฟฟ้าเกินกำลังการทำงานของเครื่องปั่นไฟ
- ไม่ควรปรับกำลังไฟฟ้า หรือซ่อมเครื่องปั่นไฟในขณะที่เครื่องยนต์ทำงานอยู่
- ควรมีผู้ควบคุมดูแลเครื่องปั่นไฟในขณะเครื่องยนต์ทำงาน
- ไม่ควรเปิด-ปิดเบรกเกอร์ บ่อยๆ โดยไม่จำเป็น
- ไม่ควรติดตั้งเครื่องปั่นไฟในบริเวณที่มีสารเคมีหรือวัตถุไวไฟ เว้นแต่น้ำมันเครื่องยนต์เท่านั้น และควรมีอากาศที่ถ่ายเทดี
- ขณะเครื่องยนต์ทำการจ่าย Load ควรตรวจสอบการทำงานของกระแสไฟฟ้า แรงดันไฟฟ้า และความถี่ของไฟฟ้าอยู่เสมอ
- ควรตรวจสอบอุณหภูมิของเครื่องยนต์และเช็กน้ำมันเครื่องยนต์อยู่เสมอ
- ตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ การติดตั้งเครื่องปั่นไฟ ควรเดินสายดินต่อกับท่อทองแดงหรือ Ground Rod ซึ่งจะต้องเชื่อมกับตัวเครื่องยนต์และตู้ควบคุมด้วย
ประเภทของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า มีให้เลือกใช้มากมายหลากหลายรูปแบบ ตามความเหมาะสมที่แตกต่างกันไป จึงควรให้ความใส่ใจในการเลือกใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ดีที่สุดเพื่อความเหมาะสมในงานต่างๆ ที่ต้องการ และจะต้องคอยบำรุงรักษาเครื่องกำเนิดไฟฟ้าให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ เพื่อการใช้งานเครื่องกำเนิดไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดนั่นเอง
หากท่านกำลังสนใจในการเลือกซื้อเครื่องกำเนิดไฟฟ้า แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกซื้ออย่างไรดี และประเภทไหนจึงจะเหมาะสมกับงานที่ต้องการใช้ สามารถเข้ามาสอบถามข้อมูล หรือเลือกดูเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทต่างๆ ที่ Siam Generator ศูนย์จำหน่ายและติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้า จากทีมมืออาชีพ ซึ่งเรารับผลิตเครื่องกำเนิดไฟฟ้าตามแบบที่ลูกค้าต้องการ โดยมีบริการหลังการขายที่ครอบคลุมให้กับลูกค้าอีกด้วย สยาม เจเนอเรเตอร์ พร้อมให้บริการลูกค้าอยู่เสมอ