เครื่องปั่นไฟกินน้ำมันเท่าไร? หาคำตอบด้วยวิธีคำนวณอัตราการใช้น้ำมัน

เครื่องปั่นไฟกินน้ำมันเท่าไร? หาคำตอบด้วยวิธีคำนวณอัตราการใช้น้ำมัน

ยุคปัจจุบัน “ไฟฟ้า” ก้าวเข้ามามีบทบาทที่สำคัญมากๆ ขาดไฟฟ้าไปตอนไหนกลายเป็นปัญหาใหญ่แน่นอน จึงมีนวัตกรรมดีๆ ที่เข้ามาเป็นตัวช่วยทดแทนไฟฟ้ายามฉุกเฉิน อย่าง “เครื่องปั่นไฟ” ที่เป็นไฟสำรองยามจำเป็น กรณีไฟดับกะทันหัน กรณีไฟฟ้าเข้าไม่ถึงหรือไฟฟ้าไม่เพียงพอ เครื่องปั่นไฟจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและตอบโจทย์มากที่สุด เพราะเครื่องปั่นไฟไม่ได้ใช้เพียงโรงงานอุตสาหกรรมใหญ่ๆ เพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถใช้กับครัวเรือนได้อีกด้วย เพราะติดตั้งใช้งานได้ง่ายและเคลื่อนย้ายได้สะดวก 

บทความนี้จะมาแนะนำวิธีการคิดอัตราการใช้น้ำมัน ว่าเครื่องปั่นไฟกินน้ำมันเท่าไร? มีวิธีคิดอย่างไร? รวมถึงการบำรุงรักษาดูแลเครื่องปั่นไฟอย่างไรให้ใช้งานได้ยาวนานต้องทำยังไง? หาคำตอบได้ในบทความนี้

เครื่องปั่นไฟใช้น้ำมันอะไรได้บ้าง

เครื่องปั่นไฟใช้น้ำมันอะไรได้บ้าง

เมื่อเอ่ยถึงความแตกต่างของเครื่องปั่นไฟแต่ละประเภท รูปแบบที่ได้รับความนิยมที่คนมักนำมาเปรียบเทียบกัน คือเครื่องปั่นไฟที่ใช้น้ำมันดีเซลและเครื่องปั่นไฟเบนซิน ซึ่งเครื่องปั่นไฟทั้งสองประเภทใช้น้ำมันที่ต่างกัน โดยนอกเหนือจากนี้ยังมีจุดแตกต่างอีกหลายอย่าง ดังนี้ 

น้ำมันดีเซล

ตามมาทำความรู้จัก “เครื่องปั่นไฟน้ำมันดีเซล” ที่มีความปลอดภัยกว่าเครื่องปั่นไฟเบนซิน  ออกแบบมาให้มีการเผาไหม้ที่ดีเชื้อเพลิงที่ติดไฟได้น้อยที่สุด สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้งานได้ยาวนาน มาพร้อมกับขนาดที่ใหญ่และหนัก แต่คงทนกว่าเครื่องปั่นไฟเบนซิน สามารถส่งมอบกำลังไฟที่มากกว่า ตอบโจทย์การใช้งานหนักๆ เหมาะกับการใช้งานอยู่กับที่และใช้งานต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน 

  • ข้อดี: ตัวเครื่องมีความทนทานสูงมาก แถมราคาย่อมเยาจับต้องได้ หากมีอุปกรณ์ตัวใดตัวหนึ่งเสียก็สามารถตามหาซื้อได้ง่าย มาพร้อมกับการให้กระแสไฟฟ้าที่สม่ำเสมอ
  • ข้อเสีย: ไม่เหมาะสมกับการใช้งานที่ต้องเคลื่อนย้ายเป็นประจำ เพราะมีขนาดใหญ่ แถมเป็นเครื่องที่ส่งเสียงดังและมีวิธีการดูแลที่ค่อนข้างซับซ้อนกว่าเบนซิน

น้ำมันเบนซิน

เครื่องปั่นไฟใช้น้ำมันเบนซินถูกออกแบบมาให้สามารถรองรับได้ทั้งเบนซินและแก๊สโซฮอล์ 91 หรือ 95 มีราคาประหยัด เพราะมีการใช้เชื้อเพลิงที่น้อยลง ดูแลรักษาได้ง่าย ตอบโจทย์การใช้งานในครัวเรือน อีเวนต์ขนาดเล็ก เคลื่อนย้ายได้สะดวกเพราะเครื่องขนาดเล็กและน้ำหนักน้อย แถมไม่มีเสียงรบกวน แม้จัดทริปไปกางเต็นท์หรือออกไปยังสถานที่ก่อสร้างก็สามารถนำไปใช้งานได้ แต่น้ำมันเบนซินเป็นสารไวไฟที่จะมีอายุการเก็บรักษาสั้นกว่าน้ำมันเชื้อเพลิงประเภทอื่นๆ จึงใช้งานได้ไม่บ่อยนัก เดือนละไม่เกิน 3 ครั้ง ครั้งละประมาณ 3-4 ชั่วโมงเท่านั้น

  • ข้อดี: ตัวเครื่องได้เปรียบกว่าเครื่องปั่นไฟน้ำมันดีเซล ตรงที่เคลื่อนย้ายได้สะดวกสบาย เพราะเครื่องมีขนาดเล็ก แถมน้ำหนักเบา นอกจากนี้ สามารถใช้งานได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยากและวิธีการดูแลรักษาก็สามารถดูแลได้ง่ายๆ ตามคู่มือ
  • ข้อเสีย: หากปล่อยทิ้งไว้เป็นระยะเวลานานๆ โดยไม่ได้ใช้งาน เมื่อนำไปสตาร์ตเครื่องมักจะติดยาก

วิธีคำนวณอัตราการใช้น้ำมันของเครื่องปั่นไฟ

การเลือกซื้อเครื่องปั่นไฟฟ้า เชื่อว่าหลายคนคงคำนึงถึง การประหยัดพลังงาน ฉะนั้นก่อนเลือกซื้อควรพิจารณาถึงอัตราการกินน้ำมัน เพราะว่าปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้หากเครื่องผลิตพลังงานไฟฟ้าได้น้อยกว่าที่คำนวณเอาไว้ ก็หมายความว่า สูญเสียน้ำมันไปแบบเปล่าประโยชน์ แถมสิ้นเปลืองทรัพยากรน้ำมันและได้รับพลังงานไฟฟ้าเท่าเดิม แทนที่จะได้นำน้ำมันส่วนนี้ไปช่วยผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 

ปกติแล้วเครื่องปั่นไฟกินน้ำมันเท่าไร? อัตราการกินน้ำมันเครื่องปั่นไฟฟ้าขึ้นอยู่กับปริมาณโหลดที่ใช้งาน อาทิ เครื่องขนาด  1000 KVA ใช้ประมาณ 200 ลิตรต่อชั่วโมง เมื่อเดินโหลด 100%  หากเดินโหลด 50% หรือ 500 KVA ก็ควรอยู่ที่ 100 ลิตรต่อชั่วโมง

  • สูตรการคำนวณ “(KVA/10) x2 = (KVA/5) ลิตรต่อชั่วโมง” หมายความว่า หากมีการจ่ายโหลด 10 KVA ก็จะมีการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง 2 ก็ประมาณ 2 ลิตรต่อชั่วโมง 
  • ตัวอย่างการคำนวณ หากอยากทราบว่าเครื่องปั่นไฟขนาด 3000 KVA เดินโหลด 100% กินน้ำมันเท่าไร? คำนวณได้ง่ายๆ ด้วยการแทนค่า KVA ลงไปในสูตร ก็จะได้ผลลัพธ์ (3000/10) x 2 = 600 ลิตรต่อชั่วโมง 

ปัจจัยที่ทำให้เครื่องปั่นไฟใช้น้ำมันมาก

ปัจจัยที่ทำให้เครื่องปั่นไฟใช้น้ำมันมาก

หลายคนคงสงสัยว่าทำไมเครื่องปั่นไฟใช้น้ำมันมาก ซึ่งปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้เครื่องปั่นไฟกินน้ำมันมาจากสาเหตุ ดังนี้ 

ขนาดและกำลังวัตต์ของเครื่องปั่นไฟ 

ปัญหาหลักอย่าง ขนาดและกำลังวัตต์ของเครื่องปั่นไฟ เป็นสิ่งที่ส่งผลให้อัตราการกินน้ำมันเชื้อเพลิงสูงมากๆ ก็เพราะว่า ไดปั่นไฟฟ้ามีขนาดที่ใหญ่เกินไป จึงทำให้เครื่องยนต์ขณะทำงานในปัจจุบันนั้น ทำงานหนักมากยิ่งขึ้น สำหรับวิธีการแก้ปัญหา ก็คือการเปลี่ยนขนาดไดปั่นไฟให้มีขนาดที่เล็กลง หรือวิธีที่ 2 ก็คือ เปลี่ยนเครื่องยนต์ให้มีขนาดเหมาะสมกับไดปั่นไฟเดิม 

ประเภทของเชื้อเพลิงที่ใช้

เครื่องปั่นไฟใช้น้ำมันอะไร? เชื้อเพลิงที่ใช้ก็ประกอบไปด้วยเบนซินและดีเซล สำหรับเครื่องปั่นไฟเบนซินแม้มาพร้อมกับราคาที่ไม่แพง ใช้งานง่ายและเคลื่อนย้ายได้สะดวก แต่ถือว่าสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงมากกว่าเครื่องปั่นไฟดีเซล เนื่องจากเครื่องปั่นไฟดีเซล มีกำลังไฟสูงกว่าเครื่องปั่นไฟเบนซิน แต่เครื่องปั่นไฟดีเซลมีราคาที่แพงกว่า ใช้งานได้ยากกว่าและเคลื่อนย้ายได้ไม่สะดวกเท่าเครื่องปั่นไฟเบนซิน

วิธีการดูแลรักษาเครื่องปั่นไฟ

แน่นอนเลยว่า เครื่องปั่นไฟใช้น้ำมันดีเซลหรือเครื่องปั่นไฟน้ำมันเบนซิน หากต้องการยืดอายุการใช้งาน และประหยัดน้ำมัน ก็ต้องมีวิธีการดูแลรักษาที่ดี  ซึ่งการดูแลรักษาเครื่องปั่นไฟให้มีประสิทธิภาพการใช้งานดี แถมไม่กินน้ำมันสามารถทำได้ ดังนี้

  • ทำความสะอาดไส้กรองอากาศ: ต้องหมั่นทำความสะอาดไส้กรองอากาศเป็นประจำทุกๆ 6 เดือน
  • เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง: การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเป็นประจำ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีการดูแลเครื่องปั่นไฟให้อยู่ด้วยกันไปนานๆ หากใช้งานบ่อยๆ ควรเปลี่ยนถ่ายเดือนละประมาณ 2-3 ครั้ง 
  • ตรวจดูนอตทุกตัวและทุกครั้ง: ตรวจเช็กนอตทุกตัวก่อนเริ่มต้นใช้งาน ตรวจดูว่านอตเสื่อมสภาพแล้วหรือไม่ แต่ละตัวมีความหนาแน่นหรือเปล่า และตรวจสอบนอตยึดสายไฟขั้วแบตเตอรี่จะต้องแน่นเสมอ
  • ทำความสะอาดเครื่องปั่นไฟเป็นประจำ: หมั่นทำความสะอาดเสมอ และหลังจากใช้งานเสร็จ ควรเป่าฝุ่นเช็ดทำความสะอาด เพื่อเตรียมความพร้อมใช้งานครั้งถัดไป
  • ทำความอุปกรณ์ภายในเครื่องเสมอ: ควรทำความสะอาดส่วนที่ทำงานอยู่ภายในเครื่องปั่นไฟเสมอ ไม่ว่าจะเป็นโรเตอร์ หรือสเตอริโอปัน เพราะถือว่าเป็นแหล่งสะสมฝุ่นละออง เพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ และสามารถยืดอายุการใช้งานได้
  • จัดเก็บบริเวณที่มีความเหมาะสม: จัดเก็บเครื่องปั่นไฟในบริเวณที่มีความเหมาะสม ห้ามเก็บไว้ในพื้นที่แห้ง หรือเย็นเกินไปเพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพและป้องกันการเกิดสนิม

วิธีประหยัดน้ำมันสำหรับเครื่องปั่นไฟ

วิธีประหยัดน้ำมันสำหรับเครื่องปั่นไฟ

เชื่อว่าหลายคนก็คงหาวิธีประหยัดน้ำมันสำหรับเครื่องปั่นไฟอยู่แน่นอน ซึ่งวิธีการประหยัดน้ำมันก็สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงพึ่งพาการดูแลให้ถูกวิธี ดังนี้

  • เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเสมอ: ควรตรวจสอบและเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเป็นประจำ ตามระยะที่ได้ระบุไว้บนคู่มือ ไม่ใช่เพียงดูแลเครื่องปั่นไฟให้อยู่ด้วยกันไปนานๆ แต่ยังสามารถช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกด้วย
  • เลือกให้เหมาะกับการใช้งาน: ต้องเลือกใช้เครื่องปั่นไฟที่เหมาะสมกับการใช้งานเพียงเท่านี้ก็สามารถทำให้ประหยัดน้ำมันได้แล้ว อาทิ หากใช้งานต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานๆ ติดต่อกันก็ควรเลือกเครื่องปั่นไฟน้ำมันดีเซล แต่ถ้าหากใช้งานไม่บ่อยนักก็ควรเลือกใช้เครื่องปั่นไฟน้ำมันเบนซิน
  • ทำความสะอาดเป็นประจำ: วิธีประหยัดน้ำมันสำหรับเครื่องปั่นไฟง่ายๆ ด้วยตัวเอง เพียงทำความสะอาดเครื่องปั่นไฟสม่ำเสมอและจะต้องทำความสะอาดทุกครั้งหลังจากใช้งาน เพื่อทำให้เครื่องมีประสิทธิภาพและพร้อมใช้งานอยู่เสมอ เพียงเท่านี้ก็สามารถช่วยประหยัดน้ำมันได้แล้ว

สรุป

ตัวช่วยผลิตไฟฟ้ายามจำเป็นอย่าง เครื่องปั่นไฟใช้น้ำมันดีเซลและเบนซิน ไม่เพียงใช้ได้แค่เฉพาะงานอุตสาหกรรมเพียงอย่างเดียว หากแต่เครื่องปั่นไฟมีประโยชน์มากมายกว่าที่คิด สามารถใช้ได้ตามบ้านเรือน หรือแม้แต่พกพาไปสถานที่ต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกยามเกิดเหตุฉุกเฉินได้ แต่ใครที่กังวลเรื่องเครื่องปั่นไฟกินน้ำมัน แนะนำให้นำวิธีคำนวณอัตราการใช้น้ำมันไปใช้ เพียงเท่านี้ก็จะทราบว่าเครื่องปั่นไฟกินน้ำมันเท่าไร? เพื่อที่จะหาแนวทางประหยัดน้ำมันและเลือกซื้อเครื่องปั่นไฟได้อย่างเหมาะสม ส่วนใครที่กำลังมองหาผู้ช่วยดูแลเครื่องปั่นไฟคู่ใจทาง Siam Generator ก็พร้อมบริการช่วยดูแลเครื่องปั่นไฟให้ได้ประสิทธิภาพ พร้อมใช้งานอยู่เสมอ ทำงานได้เต็มที่ทุกสถานการณ์ แถมไม่กินน้ำมัน บอกได้คำเดียวว่ามาที่นี่ที่เดียวทั้งประหยัดและคุ้มค่า

Facebook
Email
Print