“ไฟกระชาก” เป็นปัญหาที่หลายๆ คนอาจเคยพบเจอเมื่อใช้อุปกรณ์ไฟฟ้า ซึ่งไฟกระชากคือการที่ไฟฟ้าเกิดความไม่เสถียร อุปกรณ์ไฟฟ้าได้รับการจ่ายไฟฟ้าที่ไม่พอดี โดยในบทความนี้เราจะพาดูกันว่าไฟกระชากคืออะไร มีสาเหตุการเกิดขึ้นอย่างไรบ้าง และเราสามารถป้องกันไฟกระชากได้อย่างไรเพื่อทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้า และผู้ใช้งานอย่างเราปลอดภัย
ไฟกระชาก หรือ ไฟกระโชก คือ การเกิดแรงดันไฟฟ้าที่ไม่เสถียรตามปกติที่อุปกรณ์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าต้องการ โดยเป็นสภาวะที่มักเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและเฉียบพลัน ความเสียหายที่เกิดจากไฟกระชากก็จะมีความรุนแรงแตกต่างกันออกไปตามสาเหตุ ซึ่งผลกระทบอาจเกิดขึ้นทันที หรืออาจจะค่อยๆ ทำให้อุปกรณ์ของเราเสื่อมสภาพลงไปอย่างช้าๆ
เมื่อได้รู้กันไปแล้วว่าไฟกระชากคืออะไร แต่ยังสับสนกับไฟตกและไฟดับ มีอาการแตกต่างจากไฟกระชากอย่างไร ซึ่งไฟตก คือการที่กระแสไฟจ่ายไฟที่ต่ำกว่า 220 V และเนื่องจากอุปกรณ์มีความต้องการไฟที่มากกว่าแรงดันไฟที่ส่งมาในขณะนั้น จึงทำให้เกิดความขัดข้องของระบบไฟฟ้า ส่วนไฟดับ คือการที่กระแสไฟหยุดไหล อาจเนื่องด้วยความต้องการกระแสไฟฟ้ามากเกินกว่ากระแสไฟที่ถูกส่งมา จึงทำให้ไฟฟ้าลัดวงจร หรือสาเหตุอาจเกิดจากปัญหาที่เราไม่ทันได้ตั้งตัว เช่น หม้อแปลงระเบิด เสาไฟฟ้าล้ม สายไฟฟ้าขาด ที่ส่งผลให้ไม่สามารถจ่ายกระแสไฟตามความต้องการใช้ไฟฟ้าได้
สาเหตุที่ทำให้เกิดไฟกระชากนั้นมีหลากหลายประการ ซึ่งมีอะไรบ้างนั้นเรามาดูไปพร้อมกันเลย
ไฟดับสามารถส่งผลต่อการเกิดไฟกระชากได้ โดยการที่ขาดไฟไปชั่วขณะนั้นไม่ได้ทำให้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าได้รับผลกระทบ หากแต่เมื่อไฟกลับมาติดนั้นทำให้กระแสไฟที่จ่ายไปยังอุปกรณ์ของเรากระโดดเนื่องจากได้รับกระแสไฟอย่างเฉียบพลัน จึงทำให้เกิดเป็นไฟกระชากได้เช่นกัน
การติดตั้งวงจรไฟที่ไม่ได้มาตรฐานเป็นสิ่งที่ตรวจสอบได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากมักเกิดตามระบบภายในของการเดินไฟ หากแต่มักมีสัญญาณที่จะทำให้เรารู้ถึงการเดินไฟที่ไม่ได้มาตรฐาน เช่น ได้กลิ่นไหม้จากสายไฟ หรือ เบรกเกอร์มักถูกตัดอยู่บ่อยๆ ซึ่งสาเหตุนี้ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟกระชาก ที่จะส่งผลเสียต่ออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า และวงจรไฟโดยรวมเช่นกัน
สาเหตุนี้เกิดขึ้นจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ฝนตกหนัก มีพายุ ฟ้าร้อง และมีฟ้าผ่า ซึ่งจะทำให้การจ่ายกระแสไฟฟ้าเกิดความไม่เสถียร ไม่สม่ำเสมอ ซึ่งส่งผลทำให้ไฟฟ้าติดๆ ดับๆ หรือเกิดเป็นไฟกระชากได้
กระแสไฟเกินความต้องการจนเกิดเป็นไฟกระชากมักเกิดขึ้นจากการที่ใช้สายพ่วงมากจนเกินไป หรือการเสียบอุปกรณ์ต่างๆ ในวงจรเดียวกันเยอะๆ ซึ่งทำให้ไฟฟ้าเกินพิกัด และมีการดึงพลังงานมากเกินไปจากในหนึ่งวงจร
ไฟเกิดการกะพริบ หรือสลัว มีแสงสว่างที่แตกต่างไปจากปกติที่เคยเป็น
อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ติดๆ ดับๆ หรือไม่ทำงานตามปกติ
มีกลิ่นไหม้ออกมาจากอุปกรณ์ หรือบริเวณแหล่งจ่ายไฟ
อุปกรณ์ป้องกันไฟกระชากตั้งค่าเริ่มต้นใหม่
มีเสียงไฟกระชากจากอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าของเรา
ไฟกระชากสามารถส่งจากสายต่างๆ ได้ ดังนี้
สายไฟสามเส้น (Line, Neutral และ Ground)
สาย Lan
สายสัญญาณ AV
เสาอากาศและดาวเทียม
สายโทรศัพท์
สายอื่นๆ ที่พ่วงต่อมาจากอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า
ไฟกระชากนั้นส่งผลเสียหลากหลายประการต่ออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ไม่ว่าจะทำให้อายุของอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าลดลง มอเตอร์ของอุปกรณ์ไหม้ การทำงานของอุปกรณ์ที่ไม่เสถียร และไม่เต็มประสิทธิภาพ หรืออาจจะทำให้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าพังในที่สุด โดยเราจะมาดูกันว่าการเกิดไฟกระชากนั้นส่งผลเสียต่ออุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าอะไรบ้าง ดังนี้
คอมพิวเตอร์ที่กำลังเปิดใช้งานอยู่จะได้รับผลกระทบทันทีหากเกิดเหตุไฟกระชาก เมื่อคุณกำลังทำงานแล้วไม่ได้บันทึกงานไว้ แน่นอนว่าข้อมูลของคุณจะหายไปจนทำให้ต้องเสียเวลามาทำใหม่ ดังนั้นจึงต้องหาตัวกันไฟกระชาก เพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้ปกติอย่างต่อเนื่อง และป้องกันคอมพิวเตอร์ที่จะได้รับความเสียหาย จากการที่กระแสไฟฟ้าจ่ายไฟที่ไม่สม่ำเสมอ
เมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟกระชากจะทำให้เครื่องเสียงได้รับผลกระทบ เนื่องจากปริมาณการจ่ายไฟที่เกินหรือไม่พอกับกระแสไฟที่เครื่องเสียงต้องการ หากในกิจกรรมพิเศษที่ต้องใช้เครื่องเสียง ควรหาตัวกันไฟกระชาก เพื่อป้องกันเสียงที่ส่งผ่านเครื่องเสียงไม่เสถียรอาจเกิดเสียงรบกวนตามมาได้
ไฟกระชากจะทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเครื่องปรับอากาศได้รับความเสียหาย และมีประสิทธิภาพการใช้งานที่ลดลง เนื่องจากวงจรไฟฟ้าของเครื่องปรับอากาศได้รับความเสียหาย จึงต้องหาตัวกันไฟกระชากมาไว้ติดบ้าน เพื่อป้องกันเหตุการณ์ไฟกระชาก ที่จะทำให้ความร้อนถูกสะสมเอาไว้ภายในมอนิเตอร์ของตัวเครื่องอาจทำให้มอนิเตอร์ไหม้ได้
ไฟกระชากเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้บ่อยๆ ซึ่งความรุนแรงอาจจะไม่มากเท่าไรและระดับความรุนแรงก็แตกต่างกันออกไป แต่อย่างไรก็ตามอย่าปล่อยทิ้งไว้นาน และอย่านิ่งนอนใจเพราะอาจส่งผลเสียในระยะยาวได้ ดังนั้นจึงต้องหาวิธีแก้ไขและป้องกัน ด้วยตัวไฟกระชาก 3 เฟส
ตัวกันไฟกระชากเฟส 3 คือ เครื่องมือที่ใช้เพื่อป้องกันสายไฟจากแรงดันไฟที่อาจส่งกระแสไฟมาเกินแบบชั่วคราว หรือ ณ ขณะใดขณะหนึ่ง ซึ่งจะช่วยป้องกันการใช้งานให้แก่ผู้บริโภค หรือช่วยป้องกัน และดูแลการติดตั้งระบบไฟฟ้าอื่นๆ ตัวอย่างของเครื่องป้องกันไฟกระชาก เช่น Surge Protector หรือเครื่องป้องกันไฟกระชาก เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยลดแรงดันไฟฟ้า เพื่อป้องกันความเสียหายขณะที่เกิดไฟกระชากจนทำให้กระแสหรือแรงดันไฟฟ้ามีความผิดปกติ
ในสถานการณ์ปกติ ตัวกันไฟกระชากจะทำหน้าที่เป็นวงจรเปิด ซึ่งจะไม่ได้ส่งผลอะไรต่อวงจร หรือระบบไฟอื่นๆ หากแต่เมื่อเกิดไฟกระชาก อุปกรณ์ป้องกันไฟกระชากจะลดอิมพีแดนซ์และเปลี่ยนกระแสอิมพัลส์ จะมีลักษณะเป็นวงจรปิด เพื่อจำกัดแรงดันไฟส่วนเกินที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ไฟกระชาก โดยเมื่อเหตุการณ์กลับมาปกติอุปกรณ์ป้องกันไฟกระชากก็จะกลับมาเป็นวงจรเปิดตามเดิม
การใช้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีกระแสไฟนั้นเป็นสิ่งที่เราควรจะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยในการใช้งานอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากอันตรายที่อาจเกิดจากเหตุขัดข้องของระบบไฟฟ้าอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของเรา โดยตัวกันไฟกระชาก 3 เฟส นั้นเป็นอุปกรณ์ที่เป็นส่วนสำคัญของระบบไฟฟ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีความละเอียดสูง การเลือกใช้ตัวกันไฟกระชากเฟส 3 จึงเป็นทางเลือกที่ดีเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นและช่วยเสริมสร้างความปลอดภัยในการใช้งานอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี
ไฟกระชาก คือเหตุการณ์ที่กระแสไฟถูกจ่ายมาให้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าไม่เพียงพอ จนทำให้อุปกรณ์และระบบไฟฟ้าเกิดความขัดข้องไปชั่วขณะ ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าค่อยๆ ลดลง จนอาจทำให้ไม่สามารถใช้งานได้ อีกทั้งยังส่งผลอันตรายต่อผู้ใช้งานอย่างเราด้วยเช่นกัน
ดังนั้นการเตรียมตัวเพื่อป้องกันผลกระทบหรืออันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ไฟกระชากหรือไฟฟ้าขัดข้องสามารถป้องกันได้โดยการเตรียมเครื่องกำเนิดไฟฟ้า หรือเครื่องปั่นไฟ ของ Siam Generator นั้นมีอุปกรณ์สำรองไฟมากมายที่ให้คุณได้เลือกเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับกรณีฉุกเฉินจากระบบไฟที่ขัดข้องต่างๆ เพื่อช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า และป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับตัวคุณได้เช่นกัน
Powered by Froala Editor
Copyright © 2020 Siam Generator Co.Ltd.
TH
EN
